Review

Search

BenQ X3000i 4LED Immersive Open World Gaming Projector

โปรเจคเตอร์4K-UHD HDRตัวใหม่ของBenQ ที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์และถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเล่นเกมคอนโซลเป็นหลักไม่ว่าจะเป็น PS4 PS5 หรือXbox โดยให้คุณภาพของภาพที่ออกมาแบบเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นรองรับอัตราการรีเฟรชถึง 240Hz มีlow input lag แถมยังมีAndroid stickแถมมาเพื่อทำให้กลายเป็นSmart Projectorอีกด้วย กับราคาเปิดตัวเพียงแค่ 75,900 บาท(in.vat) มาลองดูกันครับว่าจะสุดยอดขนาดไหน

แกะกล่องออกมาสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาก็คือรูปร่างของโปรเจคเตอร์ที่ไม่เหมือนโปรเจคเตอร์ที่ใช้ในบ้านทั่วไป ขนาด 27.2 x 19.7 x 25.9 cm. น้ำหนักอยู่ที่ 6.4kg. เรียกได้ว่ารูปร่างและขนาดกำลังพอดี ถ้ามีการยกไปมาภายในบ้านเพื่อเอาไปเปิดฉายในห้องต่างๆก็ทำได้สะดวก ลักษณะภายนอกดูคร่าวๆก็เหมือนกล่องที่ลบมุมออกโดยรอบ พื้นผิวตัวเครื่องมีสีขาวยกเว้นด้านหน้าที่เป็นสีดำมัน

ด้านข้างออกแบบให้เป็นช่องระบายอากาศเกือบเต็มพื้นเพื่อให้มีการระบายความร้อนได้ดี จะมีปุ่มใช้นิ้วเลื่อนขึ้นลงเพื่อปรับการZoomและFocusภาพ ถัดไปจะเป็นปุ่มควบคุมพื้นฐานต่างๆเช่นเปิดปิดเครื่อง เลือกsource ปุ่มเปิดเมนู ปุ่มลูกศร ปุ่มOKเพื่อเลือก

ด้านหลังเครื่องมีช่องเชื่อมต่อHDMI 2.0bสองช่อง โดย HDMI2จะเป็นeARC มีช่องTriggers 12V DC, ช่องUSB 2.0 Type-Aเพื่อจ่ายไฟและFirmware upgrade, ช่องOptical audio, ช่องRS-232 และช่องเสียบหูฟัง 3.5mm. นอกจากนั้นตัวเครื่องก็ได้ติดตั้งลำโพงTreVoloขนาด 5W สองตัวฝังไว้ทางด้านหลังอีกด้วย

เทคโนโลยีการกำเนิดภาพจะเป็นDLPจากTexas Instruments โดยDMD chipที่ใช้นั้นไม่ธรรมดาจะใช้ตัว DLP650TE ซึ่งเป็นDMDชิปตัวใหม่ที่มีขนาดใหญ่ 0.65นิ้ว เพื่อส่งเสริมความสว่าง ลดnoise และเพิ่มความคมชัดของภาพ โดยทั่วไปโปรเจคเตอร์ในราคาระดับนี้จะใช้ชิปตัวเล็ก 0.47นิ้ว แต่BenQนี่ป๋ามากเอาชิปตัวใหญ่ที่ใส่ในพวกโปรเจคเตอร์ราคาหลายแสนมาใส่ไว้ในX3000iตัวนี้กันเลย

เท่านี้ยังไม่พอเพื่อให้โปรเจคเตอร์มีความสว่างขึ้นไปอีก BenQ X3000iได้ใช้แหล่งกำเนิดแสงเป็นแบบ 4LED อย่างเราเห็นในเครื่องทั่วไปแหล่งกำเนิดแสงจะเป็น 3LEDที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงสีแดง เขียว น้ำเงิน แต่โปรเจคเตอร์ตัวนี้ได้เพิ่มLEDสีน้ำเงินขึ้นมาอีกหลอดหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ให้ความสว่างโดยเฉพาะเลยทำให้แสงที่ออกมามีความสว่างมากขึ้นมากกว่าเดิมอีก 8%-12% ดังนั้นจากSpecจะเห็นได้ว่าความสว่างของโปรเจคเตอร์ตัวนี้ขึ้นไปได้สูงถึง3,000 ANSI lumens นอกจากนี้แหล่งกำเนิดแสงแบบLEDยังมีข้อดีในเรื่องอายุการใช้งานที่ยืนยาวนับสิบปี

ก่อนนำเครื่องไปทดสอบก็ต้องมีการใส่Android TV dongle หรือบางคนก็เรียกว่าAndroid Stick เพื่อให้โปรเจคเตอร์สามารถเล่นทีวีผ่านAppในตัวเครื่องได้ บางคนก็สงสัยว่าทำไมBenQถึงไม่ใส่มาให้อยู่ในเครื่อง แต่ผมคิดว่าน่าจะเนื่องจากความง่ายในการUpgradeตัวStickในอนาคต ทั้งยังสามารถนำAndroid Stickตัวนี้ไปใส่ในเครื่องแสดงภาพเครื่องอื่นอีกก็ได้ เนื่องจากใช้แค่สายไฟจากUSBและต่อเข้าช่องHDMIได้เลย

ระยะการติดตั้งโปรเจคเตอร์ตัวนี้ก็ถือได้ว่าไม่ต้องตั้งไว้ไกลมากก็สามารถได้ภาพที่มีขนาดใหญ่ระดับเกิน 120นิ้ว แต่การติดตั้งก็อาจจะต้องมีการเอียงหน้าเครื่องเพื่อให้ภาพอยู่ในตำแหน่งพอดีกับจอภาพเนื่องจากในตัวเครื่องไม่ได้ใส่ฟังก์ชั่นการshiftภาพไว้ การติดตั้งก็สามารถติดตั้งได้ทั้งเอาตัวเลนส์ไว้ด้านบน หรือไว้ด้านล่างก็ได้ โดยถ้าติดตั้งให้เลนส์อยู่ด้านล่างก็สามารถใช้ขาตั้งเสริมที่เตรียมไว้ให้เพิ่มเข้ามาไว้ด้านหลังเครื่องเพื่อสะดวกในการเอียงเครื่องให้พอดีกับหน้าจอ

ติดตั้งเครื่องเรียบร้อยก็ได้เวลาเปิดเครื่องเพื่อเบิร์นและทดสอบภาพกันต่อไป

การวางเครื่องเพื่อทดสอบผมได้วางตัวเครื่องไว้ด้านหน้าบนโต๊ะวางโปรเจคเตอร์ห่างจากจอภาพ2.8เมตร ก็จะทำให้ได้ภาพออกมามีขนาดเกือบๆ100นิ้วที่อัตราส่วนภาพ16:9 จอภาพที่ใช้ในการทดสอบเป็นจอStewart FireHawk G5 ตัววัดภาพใช้ Spectrophotometer Jetiรุ่นspectraval และColorimeter Klein K-10A ใช้Murideo Six-G เป็นPattern Generator โปรแกรมที่ใช้ทดสอบเป็นPVA,isf CalMAN Video Pro

อย่างแรกที่ขอทดสอบเลยก็คือเรื่องของInput Lag เนื่องจากเป็นBenQ X3000iโปรเจคเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับเล่นเกมเป็นหลักเรื่องของLagหรือความหน่วงของภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยผมใช้4K HDMI Video Signal Lag TesterของLeo Bodnarวัดที่ 3840x2160p60 จะวัดได้ 33ms ในPicture Modeทั่วไป แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นGame Modeวัดค่าinput lagได้เพียงแค่ 16.7ms ซึ่งถือว่าหาได้ยากมากสำหรับโปรเจคเตอร์ที่มีค่าlagน้อยขนาดนี้ นอกจากนี้ในspecได้แจ้งไว้อีกว่าถ้าปรับresolutionของภาพเป็น 1080p@240Hz ค่าlagจะลดลงเหลือเพียงแค่ 4ms ค่าlagยิ่งน้อยยิ่งทำให้การเล่นเกมมีความลื่นไหล ภาพไม่สะดุด มีการหน่วงของภาพน้อย ซึ่งดูจากอัตราการรีเฟรชและค่าlagของโปรเจคเตอร์ตัวนี้แล้วต้องบอกว่าไม่เสียชื่อBenQจริงๆที่เป็นเจ้าพ่อในเรื่องเกม

เท่านั้นยังไม่พอในPicture ModeแบบGameหรือHDR Game ก็ยังมีให้เลือกได้อีกว่าจะใช้เล่นเกมประเภทไหน เพื่อให้โปรเจคเตอร์ตั้งค่าความละเอียด ความเร็ว เสียงให้เหมาะกับเกมนั้น โดยมีให้เลือก3modeได้แก่

FPS(First-Person shooting) สำหรับเกมยิงปืนที่จะมีการเปิดให้เห็นรายละเอียดในส่วนมืดเผื่อมีศัตรูซ่อนตัวอยู่ในความมืด เสียงก็จะทำให้เสียงsurroundสามารถได้ยินเสียงฝีเท้าเดินอยู่ในที่ไกลๆหรือตำแหน่งเสียงปืน ทำให้รู้ทิศทางของศัตรูได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

RPG(Role-Playing) ก็จะให้ภาพที่สวยงามมีพลังเหมือนในภาพยนตร์ส่วนเสียงก็จะจำลองเหมือนให้อยู่ผู้เล่นรู้สึกอยู่ในโลกของเกม

SPG(Sports) ก็จะให้ภาพและเสียงที่สดใส ชัดเจน เพื่อสร้างบรรยากาศเหมือนกับกำลังแข่งกีฬาอยู่ในสนามกีฬาจริงๆ

สิ่งต่อมาที่อยากรู้ก็คือความสว่างของเครื่องจะทำความสว่างได้ขนาดไหน เพราะเป็นเครื่องที่ใช้ทั้งระบบภาพแบบDLPและแหล่งกำเนิดแสงแบบ 4LED โดยในspecก็แจ้งไว้ว่าให้ความสว่างระดับ 3000 ANSI Lumen ซึ่งจากการวัดแสงที่สะท้อนออกมาจากหน้าจอจริงๆพบว่าเครื่องก็ให้ความสว่างของภาพสูงจริงอย่างที่บอก โดยมีความสว่างในแต่ละPicture Modeก่อนที่จะมีการcalibrateภาพตามลำดับดังนี้ Bright 41.81fL, Living Room 20.47fL, Game 26.59fL, Sports 26.55fL, Cinema 26.55fL, User 20.45fL

อย่างที่ผมเคยทดสอบโปรเจคเตอร์ของBenQมาหลายตัว สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดแข็งก็คือเรื่องความถูกต้องของภาพในค่าที่ออกมาจากโรงงาน สำหรับX3000iก็เช่นกัน ค่าที่ใกล้เคียงมาตรฐานมากที่สุดจะเป็นCinema mode โดยจากdiagramก็จะเห็นว่ามีการปรับเพียงแค่เล็กน้อยในmodeนี้ค่าdelta Eหรือค่าความคลาดเคลื่อนจากมาตรฐานที่วัดได้ก็จะลดลงจาก 2.59เหลือเพียงแค่1.44 ซึ่งก็ถือว่าภาพที่ปรับออกมาแล้วอยู่ในค่ามาตรฐานระดับใกล้เคียงกับMastering Monitorมาก สำหรับรายละเอียดค่าที่ผมปรับจะอยู่ในdiagramใครสนใจก็ลองดูเผื่อเป็นแนวทางในการปรับภาพโปรเจคเตอร์ตัวนี้ได้

การครอบคลุมพื้นที่สีของDCI-P3 วัดได้ 99.98% และrec.2020วัดได้ 81.16 ก็นับได้ว่ามีพื้นที่สีกว้างมาก ก็คงเนื่องมากจากการใช้แหล่งกำเนิดแสงแบบ 4LEDที่สามารถแสดงสีได้กว้าง ทำให้สายตามองเห็นสีต่างๆได้กว้าง ละเอียด ชัดเจนเสมือนจริง

จากกราฟSpectral Power Distributionก็ทำให้เห็นข้อดีอีกอย่างของการใช้LEDเป็นแหล่งกำเนิดแสงก็คือ แม่สีต่างๆสามารถให้ความเข้มแสงได้ใกล้เคียงกัน การcalibrateภาพก็ทำได้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และภาพที่ออกมาหลังการปรับ สีขาวพื้นฐานเมื่อมองแล้วก็จะไม่ต่างจากสีขาวโดยเทคโนโลยีภาพแบบอื่นมากนัก

เมื่อทำการCalibrateภาพเรียบร้อยก็มาลองดูภาพจริง อย่างแรกที่ทดสอบก็คือภาพจากAppในเครื่อง ที่ผมชอบของโปรเจคเตอร์ตัวนี้ก็คือในYouTubeสามารถแสดงภาพเป็นHDRตามcontentต้นฉบับที่ใส่มาได้ และตัวtone mappingของเครื่องก็ทำงานได้ดีมากภาพHDRที่ออกมาให้ความรู้สึกถึงความดำ ความสว่างสดใสความกว้างของเฉดสี คอนทราสต์ของภาพมีเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อเทียบกับcontentเดียวกันเมื่อแสดงภาพออกมาแบบSDR

ภาพHDRความละเอียดระดับ4K พร้อมพื้นที่สีที่กว้าง ของเทคโนโลยีDLPแบบ 4K HDR 4LED ทำให้ภาพมีความสว่าง สามารถเก็บทุกรายละเอียดของภาพ ร่วมกับความถูกต้องแม่นยำของสีในระดับสูงทำให้ภาพที่ออกมามีมิติสวยงามเป็นธรรมชาติ

Tone mappingบนภาพแบบHDR10แสดงให้เห็นรายละเอียดทั้งในส่วนมืด ส่วนสว่างได้อย่างชัดเจน

เมื่อมาทดสอบกับภาพยนตร์ พบว่าการรีเฟรชของภาพที่เนียนและความหน่วงของภาพที่น้อยเนื่องจากออกแบบมาสำหรับเล่นเกมทำให้ภาพของภาพยนตร์ที่ออกมามีความราบรื่นไม่ติดขัด เทคโนโลยีสะท้อนกระจกภาพของDLPทำให้ภาพและสีสันถูกถ่ายทอดออกมาอย่างมีความเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะโทนสีผิวที่ทำได้อย่างสมจริง

โปรเจคเตอร์BenQ X3000iกับราคาเปิดตัวแค่ 75,900 นั้นถือได้ว่าคุ้มค่ามาก ด้วยคุณสมบัติของเครื่องที่เหนือกว่าด้วยการใช้DMD Chipขนาดใหญ่ตัวใหม่ ร่วมกับแหล่งกำเนิดแสงแบบ4LED จึงทำให้ภาพออกมาสว่าง มีความคมชัดสูง อัตราการรีเฟรชร่วมกับการหน่วงภาพต่ำทำให้ภาพเคลื่อนไหวมีความเนียนไม่สะดุด เรื่องเล่นเกมไม่ต้องพูดถึงเนื่องจากการออกแบบต่างๆเอื้อเพื่อการเล่นเกมเป็นหลักจนมีบางคนถึงกับตั้งชื่อโปรเจคเตอร์BenQ X3000iว่าเป็นKing of Gameกันเลยทีเดียว แต่ที่น่าsurpriseมากก็คือโปรเจคเตอร์ตัวนี้สามารถใช้ดูหนังได้ดีมาก ดีกว่าโปรเจคเตอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูหนังอย่างเดียวบางเครื่องเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะภาพแบบHDRที่โดดเด่นเนื่องจากพื้นฐานภาพที่มีความสว่างสูง ร่วมกับมีการใช้Tone mappingได้อย่างสวยงามไม่ขัดตา ต้องบอกว่าโปรเจคเตอร์ตัวนี้ถึงแม้ราคากับรูปร่างจะเล็กแต่ก็เล็กพริกขี้หนูของจริงเลยครับ ท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางBenQ Thailandด้วยที่ส่งโปรเจคเตอร์มาให้ทดสอบ ส่วนใครที่อยากเป็นเจ้าของBenQ X3000iตัวนี้ทางBenQแอบกระซิบมาว่าต้องรีบจองหน่อยนะครับเนื่องจากของเข้ามาเพียงเดือนละไม่กี่ตัวเอง เอ้า….ใครสนใจรีบเลยครับ

Facebook
Twitter
Email
ดาวน์โหลดบทความ BenQ X3000i 4LED Immersive Open World Gaming Projector (PDF)
Picture of ทพ. พงศ์ทิพจักร์ เชื้อเจ็ดองค์

ทพ. พงศ์ทิพจักร์ เชื้อเจ็ดองค์

หมอเอก หมอฟันผู้มีความหลงไหลชื่นชอบในเรื่องHometheater/Homecinema ด้วยความสนใจใคร่รู้ว่าเสียงและภาพในห้อง Hometheater จริง ๆ แล้วควรจะเป็นอย่างไร เลยลงทุนไปเรียนหลายสถาบันทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น THX, HAA, ISF, CEDIA, PVA, Meyer Sound Training, Smaart Training นอกจากนี้ก็เคยเข้าไปสัมผัสห้องสตูดิโอ และโรงภาพยนตร์ระดับมาตรฐานของโลกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น Stag theater, Kurasawa Dubbing Stage, Skywalker Sound Studio ของ Lucasfilm/ Pearson Theater,Bear’s Labของ Meyer Sound/ Dolby Cinema™ โดยความรู้และประสบการณ์ที่ได้มานั้นก็ได้นำมาเขียนเป็นบทความลงนิตยสาร และทำสื่อมัลติมีเดียออนไลน์เป็นเวลาหลายปี ตอนนี้ก็ได้นำบทความสื่อต่าง ๆ รวมถึงบทความใหม่ ๆ คลิปวิดีโอใหม่ ๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคตมารวบรวมกันไว้ที่ website นี้ เพื่อให้ใครที่สนใจในเรื่องของ Hometheater เอาไว้เสริมความรู้ และเผื่อสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ที่อาจจะพบเจอในการเล่นเครื่องเสียงของแต่ละท่านได้