เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยสำหรับงานCEDIA EXPO 2022 จัดที่เมืองDallas รัฐTexas ระหว่างวันที่ 28กันยายนถึงวันที่ 1ตุลาคม 2565 ซึ่งถือได้ว่าเป็นการจัดงานCEDIAครั้งแรกหลังจากทั่วโลกเจอกับวิกฤตการCOVID19 โดยครั้งหลังสุดจัดที่เมืองDenver รัฐColorado เมื่อสามปีก่อน บรรยากาศงานครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้างติดตามอ่านกันได้เลยครับ
งานCEDIAในปีนี้จะจัดขึ้น4วัน โดยวันแรกจะเป็นห้องเรียนทั้งจากอาจารย์ของCEDIAเองและเป็นการเรียนProducts Trainingจากบริษัทเครื่องเสียงและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มาเปิดอบรมให้กับผู้ที่สนใจในสินค้าของตัวเอง ส่วนวันที่สองถึงวันที่สี่จะมีทั้งการเรียนและงานEXPOที่แสดงสินค้าด้านภาพและเสียง ซึ่งในปีนี้นับได้ว่ามีผู้เข้าร่วมชมงานมากมายและดูคึกคักกว่าที่คิดไว้ ตอนแรกก็ยังหวั่นๆเหมือนกันว่าจะมีคนมาร่วมเยอะไหมทั้งจากสถานการณ์COVID19และสงคราม แต่มาเจอบรรยากาศเข้าคิวเพื่อรับบัตรเข้าชมงานที่แถวยาวทำให้ใจชื้นขึ้นมาว่างานปีนี้คงไม่เงียบเหงาแล้ว
หลังจากลงทะเบียนหน้างานเสร็จเรียบร้อยก็จะได้ป้ายชื่อพร้อมQR codeเพื่อใช้ในการscanเข้าร่วมconference และเข้าร่วมงานแสดงสินค้าEXPO
สำหรับงานCEDIAในปีนี้จะจัดทั้งสิ้นสี่วัน วันแรกเป็นการtraining ทั้งในส่วนของCEDIAเองและproduct training โดยผมได้ลงเรียนconferenceหลายห้องที่น่าสนใจเช่น Sony Professional Solutionsที่จะพูดเกี่ยวกับการจัดการแก้ไขในส่วนอุปกรณ์Sony, Deathmatch Audio Networking/Audio-over-IPจะพูดถึงการใช้งานการส่งสัญญาณเสียงผ่านNetworkโดยผู้เชี่ยวชาญของDante, Head productของStrom Audio, Engineer เกี่ยวกับnetworkอีกหลายคน, Sony Home Projector/TV Solutions-See the Difference ที่จะเป็นการshoot outสื่อแสดงภาพหลายยี่ห้อทั้งในส่วนของโปรเจคเตอร์และทีวี, Immersive Audio System Design Recommended Practice Workshopเป็นการบรรยายและทำworkshopหาตำแหน่งนั่งฟัง ตำแหน่งลำโพง specของแอมป์ และลำโพงที่ใช้ในห้องhometheater เพื่อให้เป็นไปตามreference parametersอันใหม่ล่าสุดของCEDIA (CEDIA/CTA RP22 Performanc Levels), X.X.X: How We Should Describe Multi-Channel Audio Formats & What to Do With the Center Channel Speaker for the Solid Screen โดยพูดการที่ว่าจะเรียกระบบว่าอย่างไร เช่นเป็น 5.1.2/ 7.1.4 / 9.4.6 / 8.12.6 ต้องดูตรงไหน คือมันไม่ใช่ดูจากแค่ช่องต่อoutput จาก Pre หรือ AVR แล้วมันคืออะไรและก็มาพูดถึงลำโพงCenterถ้าวางกับจอทีวี หรือไม่สามารถวางไว้หลังจอภาพได้ ต้องวางอย่างไรให้เสียงออกมาจากกลางจอ
ส่วนการแสดงสินค้าด้านภาพและเสียงExpoจะเริ่มในวันที่สองและจะมีไปสามวันซึ่งจะตรงกับวันพฤหัส-วันเสาร์ ซึ่งจะต่างจากบ้านเราที่คนในต่างประเทศมักจะไม่ชอบเดินงานเครื่องเสียงในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์เนื่องจากถือว่าเป็นวันหยุด วันของครอบครัว ในขณะที่เมืองไทยของเราวันเสาร์ อาทิตย์คือวันที่คนมาเดินงานมากที่สุด เมื่อมาถึงงานทุกคนก็ต้องมาregisterที่เคาน์เตอร์หน้างานเพื่อรับบัตรประจำตัวห้อยคอเพื่อใช้ในการscanเข้าห้องconference, ห้องแสดงสินค้าต่างๆ เพราะบางทีบางห้องต้องมีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมเลยต้องมีการแสดงตัวตนก่อนว่าเราได้ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมนั้น
ในส่วนของงานแสดงสินค้า ถ้านับว่าหลังจากวิกฤตการCOVID19ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจทุกประเภทก็ถือว่าปีนี้มีบริษัท ห้างร้าน มาเปิดบูธแสดงสินค้ามากกว่าที่คาดไว้ แต่ถ้าเทียบกับช่วงเศรษฐกิจดีๆก่อนการระบาดที่ผมเคยไปงานนี้มาผมว่ามีร้านหายไปจากเดิมเกือบหนึ่งในสามเลยทีเดียว บางbrandบางยี่ห้อที่เคยเห็นออกบูธทุกปี ปีนี้ก็หายเงียบไป แต่ด้วยคนที่เข้าร่วมงานไม่ได้ลดลงมากนักก็ยังทำให้งานดูคึกคักอยู่ ไม่ได้ดูเงียบเหงาเหมือนกับที่กลัวกันก่อนจะจัดงาน ยังไงก็ดีก็หวังว่าถ้าสถานการณ์ต่างๆในโลกดีขึ้น เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว งานก็น่าจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม ยังไงขอนำรูปบรรยากาศงานแสดงสินค้าExpoในบางส่วนให้ดูกันเพื่อเป็นตัวอย่างก่อน
Paradigm Anthemก็มา มีห้องDemoด้วย แต่ด้วยเวลาจำกัดทำให้ไม่ได้แวะมาดูเลย ต้องบอกว่าห้องDemoห้องลองเสียงในงานมีเยอะมากไหนจะshoot out, ห้องเรียนอีก ต้องเลือกเอาจะฟังทุกห้องนั้นไม่ทันแน่ อย่างงานนี้ผมก็ไม่ได้เข้าไปดูหลายห้องเหมือนกัน
นอกจากเนื้อที่ภายในงานแล้ว บางยี่ห้อก็อาจจะเช่าโรงแรมที่ไม่ไกลสถานที่จัดงาน เปิดเป็นห้องโชว์เพิ่มเติมอีกด้วย อย่างห้องนี้โชว์ระบบลำโพงSteinway Lyngdorfอยู่ในห้องของโรงแรมข้างๆ
สำหรับห้องโชว์ภาพและเสียงในปีนี้ก็ถือว่ายังมีเยอะเหมือนเดิม ผมขอนำเอาบางห้องที่น่าสนใจมาให้ชมกันอย่างห้องแรกนี้เป็นห้องของ Sonus faber, Trinnov, McIntosh ห้องนี้จะมีคนมารอต่อคิวเข้าชมยาวตลอด อย่างผมมาถึงห้องโชว์ประมาณเก้าโมงกว่า ว่าเช้าละนะ สภาพก็เป็นอย่างที่เห็น แถวรอชมยาวเลยบันไดไปละ เวลาใครเห็นแถวยาวๆของการชมบูธไม่ต้องตกใจและบอกว่าเดี๋ยวบ่ายค่อยมา หรือพรุ่งนี้ค่อยมาแถวจะได้สั้นลง เพราะมาอีกทีบ่อยเลยที่แถวยาวกว่าเดิมอีก
หน้าห้องมีAmp ของMcIntoshเรียงกันเป็นตับตอนแรกนึกว่าเอาไว้โชว์เพื่อความสวยงาม ที่ไหนได้เดินเข้าไปดูใกล้ๆเข็มกระดิกไปมา เนื่องจากเป็นAmpที่ใช้ขับลำโพงจริงๆในห้องDemo แต่แค่ดูข้างหน้าก็สวยงามกินใจนึกไปถึงข้างในเลยว่าใช้แอมป์ขนาดนี้เสียงจะขนาดไหน
มาถึงรอไม่นานเท่าไหร่ก็ได้เข้าฟังเนื่องจากจองไว้หลายวันก่อน และโจเซฟผู้เป็นธุระติดต่อเรื่องการเข้าชมบอกว่าmoney seatอยู่ที่แถวสองตัวสองกับตัวสาม ได้เข้าก่อนผมก็ได้เลือกนั่งตรงนี้เลย
สำหรับระบบที่ใช้ในห้องนี้เป็น 11.12.6 ใช้ลำโพงSonus Faber, pre-pro Trinnov, แอมป์McIntosh, เครื่องเล่นkaleidescape, ระบบacousticsจัดทำโดย Officina Acoustica, โปรเจคเตอร์Barcoและแน่นอนmadVRเป็นvideo processor สำหรับรายละเอียดต่างๆในห้องรอดูในคลิปอีกที แต่บอกไว้ก่อนว่าห้องนี้เป็นห้องที่ทำเป็นห้องซ้อนห้องทำให้ข้างในเสียงเงียบมาก ข้างนอกก็เสียงแทบจะไม่เล็ดลอดออกมาเลย อคูสติคข้างในทำมาได้ดีมาก
เริ่มจากภาพยนตร์เรื่องBrave ตามมาด้วยThe Greatest Showman ที่โชว์พลังเสียงร้องและเนื้อเสียงของนักร้องได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งได้ลำโพงSonus Faberที่ได้ความละมุนละไมของเสียงทำให้ส่งเสริมให้เสียงออกมาไพเราะน่าฟังเป็นที่สุด
เพื่อโชว์พลังเสียงพี่Maverickต้องมาละครับ ต้องบอกว่าพลังเสียงของห้องนี้เหลือๆ เบสได้น้ำหนัก รุนแรงแต่ไม่เข็งกระด้าง เสียงเครื่องยนเครื่องบินผ่านมาแต่ละทีสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นถูกใจผมมาก บรรยากาศรายล้อมทำได้ยอดเยี่ยมพิมพ์นิยมตามแบบTrinnov จำได้อย่างฉากเสียงลมที่อยู่ล้อมcockpitตอนเร่งเครื่องบินไปที่ความเร็วMark10นั้นมันเหมือนมีลมหมุนอยู่รอบตัวจริง ดูเสร็จต้องบอกว่าห้องนี้ทำได้ยอดเยี่ยมมาก ใครมารอนานๆต้องบอกว่าไม่เสียแรงที่รอเข้าชมแน่นอน
เยี่ยมชมห้องTrinnovเสร็จก็รีบลงมาดูTV shoot outของ Sonyต่อ งานShoot Outจะได้รับความนิยมมาก แม้ว่าจะเป็นงานวันสุดท้ายที่เป็นวันเสาร์ ซึ่งฝรั่งบางทีเสาร์ อาทิตย์เขาไม่มางานเนื่องจากเขาถือว่าเป็นวันหยุดของเขา ไม่เหมือนเมืองไทยที่คนมากในวันเสาร์ อาทิตย์
ก็จะเป็นการshoot outแบบมีทีวีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายเทคโนโลยี เปิดเปรียบเทียบกันให้เห็นกันว่าแต่ละตัวให้ภาพ ให้เสียง เป็นอย่างไร และที่เจ๋งคือมีจอMastering Monitorอย่าง Sony BVM-X300เทียบให้เห็นกันจะๆไปเลยว่าภาพที่เป็นreferenceในstudioนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งคนบรรยายก็พูดไปเรื่องแหละครับว่าดูตรงไหนบ้าง อะไรที่แตกต่าง แต่อย่างที่ผมเคยบอกเวลาไปดูจริงอย่าเชื่อมากให้ดูจากสายตาตัวเราเองจริงๆไม่ต้องไปเชื่อที่เขาพูดทุกอย่าง และเวลาดูทีวีให้ดูตรงๆด้วยนะครับอย่าดูแต่ด้านข้างอย่างเดียว ดูข้างมากๆภาพเพี้ยนไปเยอะ
อีกห้องที่น่าสนใจมาก็คือห้องโชว์ของ Absolute Ultimate Home Theater โดยก่อนเวลาบ่ายโมง เวลาที่Demoผมก็ได้มานั่งรอเข้าเยี่ยมชมห้อง ซึ่งก็จะมีคนที่Bookไว้มารอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยห้องนี้ระบบจะมีโปรเจคเตอร์ของChristie Eclipse ระบบเสียงเป็นของSteinway Lyngdorf จอภาพDreamScreen และแน่นอนที่สุดต้องใช้madVRเป็นVideo Processor
บรรยากาศภายในห้องที่บุผนังได้มืดและดำทุกด้าน ขนาดเปิดไฟสว่างสุดภาพบนจอนี่ยังนิ่งอยู่เลยปิดไฟดูหนังนี่จะขนาดไหน ลำโพงไม่ได้ใช้ลำโพงตัวใหญ่มากนัก และก็ไม่ได้วางไว้สูงด้วย layoutเป็นอย่างไร แล้วไมวางลำโพงแบบนี้ต้องถามทางSpatial ที่เป็นคนทำ3D soundห้องนี้ ซึ่งท้ายสุดของDemoเขาก็โชว์เสียง3D ที่ทำได้ดีมาก ได้ฟังละอึ้งเลยครับจำลองเสียงสถานที่ เหตุการณ์ต่างๆได้เหมือนจริงมาก เสียอย่างเดียวคนบรรยายพูดเบามาก ฟังไม่ออกเลยว่าเฮียแกบ่นอะไรอยู่คนเดียว
เสียดายตอนDemoเขามาเตือนว่าไม่ให้ถ่ายวิดีโอเพราะมันจะไปรบกวนคนอื่น แต่พอดีถ่ายไว้ได้ช่วงแรกๆไม่กี่วินาที เลยเอาความสุดยอดของภาพมาให้ได้ดูกัน เรียกได้ว่าโปรเจคเตอร์ Christie Eclipseตัวนี้ให้ภาพออกมาได้สุดจริงๆ ไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่าอันนี้ภาพมาจากโปรเจคเตอร์DLP ที่ส่วนมากทำความดำและcontrastของภาพได้ไม่ดีเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น แต่ภาพที่ผมเห็นวันนี้ภาพมันดำมากๆสมกับcontrastที่เขาเคลมไว้ว่าอยู่ที่ 20,000,000:1 ไม่ต้องเทียบกับโปรเจคเตอร์ระบบอื่นๆเลยครับ ผมว่าเทียบต้องเอาไปเทียบกับทีวีตัวท๊อปๆได้เลยในเรื่องของcontrast สีสันที่สามารถไปถึงRec.2100 และความสว่างที่ทำได้ถึง1-20,000nits ต้องบอกว่าเยี่ยมยอดมาก ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มที่ยิ่งได้ดูจากภาพยนตร์ ความสว่างที่เจิดจรัสและสีสันนี่ออกมาแบบสุดจัดสวยงามแบบนิ่งๆ เหมือนประหนึ่งเอารถแรงๆที่มีheadroomเหลือๆมาขับ คุณอยากได้ความเร็วเท่าไหร่ก็เหยียบมาได้เลยรถก็ยังนิ่งๆสบายๆ ต้องบอกว่า Christie Eclipseนี่คือโปรเจคเตอร์ภายในบ้านที่ให้ภาพเยี่ยมยอดที่สุดที่ผมเคยเห็นมาเลย เคยเห็นโปรเจคเตอร์มาก็เยอะแต่ละตัวก็มีจุดเด่นจุดด้อยของมัน แต่สำหรับตัวนี้ผมถือได้ว่ามีความสุดยอดสมบูรณ์แบบในทุกด้านเท่าที่โปรเจคเตอร์ภายในบ้านจะสามรถทำได้ ใครที่เป็นสายภาพชอบเรื่องโปรเจคเตอร์ฉายหนังในบ้านผมว่ายังไงต้องหาโอกาสได้เห็นภาพของโปรเจคเตอร์ตัวนี้ซักครั้งนะครับรับรองว่าจะได้ประสบการณ์ดีๆในเรื่องของภาพแบบสุดยอด…..อ้อพิมพ์ไปมาผมนึกออกละ…ข้อเสียของโปรเจคเตอร์ตัวนี้คือเรื่องราคาครับ555
ตอนก่อนเข้าไปชมDemoของAbsolute Ultimate Home theater ผมก็คิดว่าห้องนี้คงเน้นแต่เรื่องของภาพ แต่เข้าไปดูที่ไหนได้เสียงในห้องนี้ก็ทำได้ดีมากเช่นเดียวกันระบบลำโพง Steinway Lyngdorfร่วมกับเสียง3DของSpatialให้เสียงออกมาแบบหนักแน่น สมจริง มีสีสัน แต่ว่าฟังสบายไม่เหนื่อยไม่ล้าหู โดยคลิปหนังที่เปิดโชว์ในวันนั้นอันแรกจะเป็นเรื่องJohn Wickฉากสู้กันในห้องกระจก เสียงการชก เสียงปืนที่มีทั้งimpact รายละเอียด ทิศทาง ทำได้อย่างเร้าใจ มาคลิปที่สองเป็นหนังการ์ตูนFrozenตรงช่วงเสียงร้องเพลง เรียกได้ว่าทั้งภาพและเสียงที่ออกมาดึงอารมณ์คนดูให้คล้อยตามได้อย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งมาเจอคลิปที่3เป็นหนังเรื่องThor:Love and Thunder ตรงช่วงเพลงSweet Child O’mineนี่อยากบอกว่าทั้งภาพและเสียงที่ออกมาร่วมกันทำให้ดูมันมาก ผมถึงกับต้องโยกหัวตามไปกับหนังด้วยเลย ดูการDemoในห้องนี้เสร็จเดินออกมานี่ให้ความรู้สึกอิ่มเอมใจมากกับห้องนี้ ในความคิดของผม ผมขอยกให้ห้องนี้ว่าเป็นห้องที่ดีที่สุดสำหรับงานโชว์ของCEDIA2022ในปีนี้เลยครับ สุดจริงขอบอก…..
จบไปเรียบร้อยแล้วสำหรับงาน CEDIA Expo 2022 ที่ Kay Bailey Hutchison Convention Center, Dallas, TX ปีหน้าวนไปจัดที่Denver ซึ่งผมเคยไปงานCEDIAครั้งหนึ่งที่Denverเมื่อสามสี่ปีที่แล้วคิดว่างานน่าจะจัดหอประชุมของเมืองที่เดิม ยังไงคงต้องติดตามข่าวกันต่อไปใครสนใจจะไปร่วมงานเตรียมตัวขอวีซ่าไว้ตั้งแต่เนิ่นๆได้เลยนะครับ ยังไงผมแนะนำว่าถ้าใครเป็นสายhometheater homecinemaยังไงต้องมางานนี้ให้ได้ซักครั้งหนึ่งครับ
