Review

Search

Dune Pro Vision 4K Solo

ผมได้รับ Media Player ตัวใหม่ล่าสุดของDuneมาทดสอบ มาดูกันว่าคุณภาพของเครื่องเล่นที่ราคาเปิดตัวในต่างประเทศ 449USD จะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งสำหรับDuneหลายท่านก็คงจะคุ้นเคยกับเครื่องเล่นไฟล์หนังยี่ห้อนี้เป็นอย่างดี รุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด(ขณะกำลังเขียนต้นฉบับอยู่) ในเมืองไทยยังไม่มีใครนำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการ พอดีมีเพื่อนๆนักเล่นที่ชอบเล่นเครื่องแบบนี้สั่งมาจากต่างประเทศ เลยเอามาให้ผมลองทดสอบคุณภาพดูก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้างจะได้เป็นแนวทางสำหรับใครที่สนใจเครื่องประเภทนี้อยู่

ชื่อเต็มที่เขียนไว้บนกล่องสำหรับเครื่องเล่นตัวนี้คือNetwork 4K HDR Media Player with Android หรือพูดง่ายๆก็คือเครื่องไฟล์หนังที่สามารถลงApp แบบAndroidได้ Main Featuresของเครื่องก็บอกไว้ที่ด้านหลังกล่องอยู่หลายอย่าง เด่นๆก็คือเครื่องนี้ใช้processorตัวใหม่ของRealtekรุ่น RTD1619 ตัวเดียวกับที่ใช้อยู่ในZidoo UHD3000 อย่างที่ทราบว่าชิปตัวนี้รองรับข้อมูลภาพทั้ง HDR10+, Dolby Vision แต่ที่น่าสังเกตคือเครื่องDune Pro Vision 4K Soloตัวนี้ไม่ได้กล่าวถึง Dolby VisionหรือมีรูปLogo ของDolby Visionติดไว้แต่อย่างใด อาจจะด้วยเรื่องของลิขสิทธิ์ว่าถ้าคุณติดรูปLogoของDolbyคุณก็ต้องเสียเงินเพิ่มตรงนี้ ทางDuneก็เลยเลือกที่จะไม่ติดlogoหรืออ้างถึง (แต่กลับตั้งชื่อรุ่นที่มีคำว่าVisionเอาไว้ เหมือนกับบอกความหมายโดยนัยแทน อันนี้ผมเดาเอานะ555)

เครื่องตัวจริงมีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ขนาดอยู่ที่ 215x71x174mm ดูละเหมือนเป็นBoxขนาดย่อม ตัวถังกับพื้นผิวดูแข็งแรงทนทานดี

ด้านหลังเครื่องก็มีที่ใส่เสาอากาศWi-Fi, Blutooth ช่องต่อRCA, Coaxial, Optical, สำหรับHDMIสามารถแยกภาพกับเสียงได้เหมือนกับเครื่องเล่นระดับHi-End, รองรับGigabit Lan, มีช่องต่อทั้งUSB 2.0, 3.1 และ USP Type-C

สามารถเสียบHard Disk PCได้ที่ด้านข้างหนึ่งตัว

Remote มีทั้งแบบเป็นIR และ Blutooth AirMouse Remote ซึ่งเท่าที่ลองใช้ ลองกดปุ่มต่างๆพบว่าให้การตอบสนองที่เร็ว มีความเสถียร

เชื่อมต่อสายสัญญาณต่างๆเพื่อทดสอบ

ช่วงนี้มีเครื่องเล่นหลายตัวให้ลองเล่น ลองทดสอบ

GUI(Graphical User Interface) ก็น่าจะเหมือกับDuneรุ่นอื่น

ในเมนูหน้าSetupที่ใช้ตั้งค่า

Firmware Upgradeจะอยู่ในหน้านี้

Appต่างๆที่มากับเครื่อง

อย่างที่ได้บอกไว้ว่าชิป Realtek RTD1619รองรับDolby Vision หน้าเมนูแสดงผลจึงสามารถเลือกได้ว่าจะแสดงผลDolby Visionแบบไหน โดยจะมีfunctionให้เลือกด้วยว่าจะใช้ VS10ซึ่งเป็นEngineตัวหนึ่งของDolby Visionที่สามารถปรับปรุงระบบภาพทั้งSDR, HDRและDV ให้มีคุณภาพของภาพที่ดีขึ้นในรูปแบบของDV BT2020 12-bit 4:2:2

สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้VS10 ทำงานที่SDR , HDR, DV หรือทั้งหมดเลยก็ได้

นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าละเอียดได้ในส่วนของ EDID และ Chroma Subsampling

เปิดหนังจากNetflix พบว่าNetflixยังไม่ปล่อย Dolby Visionผ่านเครื่องตัวนี้ ได้สูงสุดที่ 4K HDR เท่าที่ดูภาพจากหนังจริงๆผมว่าอยู่ในระดับดี แต่ยังไม่ดีเท่าตัว Apple TV4K ที่สามารถปล่อย Dolby Visionได้

สำหรับYoutube ผมยังไม่สามารถเข้าดูเป็น4K HDRอย่างที่Featureของตัวเครื่องระบุไว้ หรือว่ามันต้องSetอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า? แต่ความจริงไม่น่าจะต้องให้setอะไรเพิ่มเติมอีกควรจะให้อัตโนมัติไปเลยเพราะตัวหนังเองก็เข้าดู4K HDRได้ตามSourceที่บันทึกมา เดี๋ยวรอดูFirmwareใหม่ว่าจะแก้ไขให้หรือเปล่า ส่วนภาพของYoutubeก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเช่นกัน ภาพมีความคมชัด การเคลื่อนไหวต่อเนื่องไม่กระตุก แต่ผมว่าสีสันจัดมากไปหน่อย

เปิดภาพจากไฟล์หนังจริงๆเรื่องDunkirk ที่เป็น 4K HDR พบว่ามีการเข้าถึงไฟล์ได้เร็ว อ่านไฟล์วิดีโอได้รวดเร็ว ภาพ4K HDRที่ออกมาจากเครื่องตรงๆ จะเป็นแนวสว่าง สีสวย มีความสด คมชัด

คราวนี้ลองมาดูภาพหนังที่เป็นDolby Visionกันบ้างจากภาพยนตร์เรื่องHobbitที่เอามาปัดฝุ่นทำremakeใหม่ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้บันทึกเป็นภาพแบบDolby Vision เมื่อนำมาดูในแบบ LLDV ภาพที่ออกมาจะเด่นในเรื่องสีสันที่เข้มข้นสวยงามขึ้น การไล่ระดับสีต่างๆทำได้เนียนตามแบบDV การรักษาความสว่างความมืดของภาพได้มีความสมดุลย์กันดี noiseหรือbandingของสีน้อย แต่ผมพบว่าเครื่องDuneก็ยังมีBugอยู่ โดยถ้าเป็นไฟล์หนังmkvที่มีSub TitleแบบPGSอยู่ในไฟล์หนังDolby Vision ผมเจอว่าเครื่องจะHankไปเลย ต้องเปิดปิดเครื่องใหม่

ภาพจากสารคดีเรื่องPerfect Planet ที่เป็นไฟล์ภาพแบบ HDR10 ธรรดา แล้วใช้VS10 Engineในเครื่องDune Pro Vision 4K Soloทำให้เป็น LLDV BT2020 12-bit 4:2:2 ภาพที่ออกมาถือได้ว่าทำได้ดี ไม่มีกระตุก สีดูเข้มขึ้นคล้ายๆกับDVแท้ และยังรักษาความมืดความสว่างของภาพได้ดีเช่นกัน

สุดท้ายลองภาพต้นฉบับที่เป็น 2160p SDR 8bits BT.709 4:2:0 แล้วใช้ VS10 Engineจากเครื่องDune ผลออกมาก็ยังให้ภาพที่ดีอยู่ไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาเรื่องเสียงเนื่องจากว่าเครื่องไม่สามารถถอดรหัสออกมาเป็นDTS-HDได้ จะออกมาแค่เป็นDTSธรรมดาแทน ส่วนDolby Atmosสามารถถอดออกมาได้ไม่มีปัญหา ซึ่งเข้าไปดูกระทู้ถามตอบในต่างประเทศได้มีการแนะนำให้ไปUpload Patchเพิ่มเติม ซึ่งผมลองทำดูแล้วเครื่องสามารถถอดรหัสDTS-HDได้ แต่ปรากฏว่ามีการDelayของเสียงตามมาต้องไปปรับในส่วนของlip syncอีกทำให้ยุ่งยาก ยังไงคงต้องรอให้ทางDuneปล่อยFirmwareออกมาแก้ไขตรงส่วนนี้อีกเช่นกัน

สรุปแล้วเครื่องDune Pro Vision 4K Soloตัวนี้ ถือได้ว่ามีจุดเด่นในเรื่องของราคาที่จับต้องได้ ภาพที่ออกมาให้ความสวยงาม มีการรองรับDolby Visionได้ทั้งแบบปกติ LLDV และ VS10 Engine สำหรับในเรื่องของเสียงจะเน้นความสมดุลย์โดยรวมของเสียง ความถี่สูงก็ไม่ได้สดจนระคายหู ส่วนความถี่ต่ำก็ยังรักษาความยิ่งใหญ่ หนักแน่นอยู่ การโยนของเสียงImmersive Soundทำได้ดีตามมาตรฐาน แต่ปัญหาใหญ่ก็คือเครื่องเปิดตัวมาใหม่มากยังมีbugอยู่ ทำให้ต้องรอดูต่อไปว่าทางDune จะปล่อย Firmwareออกมาแก้ปัญหาเหล่านี้เมื่อไหร่ ซึ่งถ้าสามารถแก้ไขbugเหล่านี้ได้ดีผมว่าสาวกDuneรอสอยได้เลยครับ

Facebook
Twitter
Email
ดาวน์โหลดบทความ Dune Pro Vision 4K Solo (PDF)
Picture of ทพ. พงศ์ทิพจักร์ เชื้อเจ็ดองค์

ทพ. พงศ์ทิพจักร์ เชื้อเจ็ดองค์

หมอเอก หมอฟันผู้มีความหลงไหลชื่นชอบในเรื่องHometheater/Homecinema ด้วยความสนใจใคร่รู้ว่าเสียงและภาพในห้อง Hometheater จริง ๆ แล้วควรจะเป็นอย่างไร เลยลงทุนไปเรียนหลายสถาบันทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น THX, HAA, ISF, CEDIA, PVA, Meyer Sound Training, Smaart Training นอกจากนี้ก็เคยเข้าไปสัมผัสห้องสตูดิโอ และโรงภาพยนตร์ระดับมาตรฐานของโลกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น Stag theater, Kurasawa Dubbing Stage, Skywalker Sound Studio ของ Lucasfilm/ Pearson Theater,Bear’s Labของ Meyer Sound/ Dolby Cinema™ โดยความรู้และประสบการณ์ที่ได้มานั้นก็ได้นำมาเขียนเป็นบทความลงนิตยสาร และทำสื่อมัลติมีเดียออนไลน์เป็นเวลาหลายปี ตอนนี้ก็ได้นำบทความสื่อต่าง ๆ รวมถึงบทความใหม่ ๆ คลิปวิดีโอใหม่ ๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคตมารวบรวมกันไว้ที่ website นี้ เพื่อให้ใครที่สนใจในเรื่องของ Hometheater เอาไว้เสริมความรู้ และเผื่อสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ที่อาจจะพบเจอในการเล่นเครื่องเสียงของแต่ละท่านได้