เห็นจั่วหัวแบบนี้ก็คงตกใจว่าเป็นไปได้อย่างไร ก็รู้ๆกันอยู่ว่าสายสัญญาณนั้นยิ่งสั้นการสูญเสียสัญญาณยิ่งน้อยก็น่าจะดีกว่าสายยาวอยู่แล้วนี่นา ….ตัดภาพมาที่ผมหันไปดูสายที่ตัวเองใช้มีหลายเส้นเลยที่ยาวไม่ถึงเมตร(เนื่องจากราคาถูกดี) แล้วมีเหตุผลอะไรถึงบอกว่าสายHDMIควรจะยาวมากกว่า 2 เมตร วันนี้มาอ่านกันครับ
ความจริงผมเคยได้ยินความคิดนี้หลายปีมาแล้วแต่ไม่ได้สนใจอะไรมากเนื่องจากฟังๆดูมันก็ไม่ make sense เท่าไหร่ คิดว่ามันน่าจะเป็นการมโนหรือคิดกันไปเองมากกว่า จนมาเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้วได้ฟังบทสัมภาษณ์ของ Jim Peterson เจ้าของบริษัทที่ทำ Lumagen เครื่อง External Video Processor ชื่อดัง เขาได้พูดอธิบายอย่างชัดเจนถึงสาย HDMI ว่าทำไมต้องใช้สายที่ยาว 2-4 เมตร นอกจากนั้นไม่ใช่เขาคนเดียวที่แนะนำแบบนี้ บุคคลในวงการเครื่องเสียงที่มีประสบการณ์สูงหลายท่านก็ได้แนะนำแบบนี้ โดยคนสัมภาษณ์ในรายการ Jason Dustal ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับภาพของ AV Pro Edge ที่เป็น certified ISF Video Calibrator ก็ได้เสริมด้วยว่าการเรียนการสอนปรับภาพในบางclassก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งผมว่าถ้าคนคลุกคลีอยู่ในการทำเครื่องvideo processorชื่อดังระดับโลกพูด และเครื่องพวกนี้ต้องใช้ port HDMI เป็นหลักในการส่งผ่านข้อมูล เขาน่าจะต้องลองผิดลองถูกและมีประสบการณ์ที่เจอมาเยอะกับปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อ ก็น่าจะลองฟังเหตุผลดูว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนี้ สำหรับใครต้องการดูคลิปต้นฉบับก็สามารถดูจากลิ้งค์ https://www.youtube.com/watch?v=VA6G6vFPGwE&t=2217s นาทีที่33:50ครับ
โดย Jim Peterson ได้ให้เหตุผลว่าสาย HDMI ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับความยาวที่มากกว่านี้ อย่างในอดีตสาย DVI สเปกก็แนะนำให้ใช้ที่5เมตร ส่วน HDMI รุ่น1.1ในสมัยนั้นก็ลักษณะเดียวกันเขาต้องการให้สายสามารถทำงานได้ยาวที่สุด โดยความยาวที่เหมาะสมของ HDMI จึงแนะนำไว้ที่ 2-4 เมตร ที่แนะนำแบบนี้ก็เนื่องจากว่าสาย fiber สามารถทำให้เกิด jitter หรือการไม่ตรงกันของสัญญาณในขบวนการเปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้าไปเป็นแสงและแปลงกลับจากแสงเป็นพลังงานไฟฟ้าเหมือนเดิม โดย Jitter เกิดจากการที่สัญญาณไม่ตรงกันระหว่าง Ideal Clock ที่ควรจะเป็นกับสัญญาณที่เกิดจริงใน Jittered Clock และการเกิด Jitter ไม่ได้เกิดขึ้นที่ระยะทางยิ่งยาวแล้วจะยิ่งเกิดมากขึ้น แต่ Jitter Timing จะเป็นลูกคลื่นขึ้นลงดังในรูป โดยสายสัญญาณ HDMI ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับระยะ 2 เมตรขึ้นไป(บางที่บอก 6ฟุต) ระยะที่เหมาะสมสำหรับการเกิด Jitter น้อยก็น่าจะอยู่ระหว่าง 2-4เมตร เขาจึงแนะนำว่าถ้าต้องใช้สาย Passive ที่ไม่มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในการ boost สัญญาณหรือแก้ไข Jitter ระยะที่เหมาะสมก็ควรจะเป็นสองเมตร ซึ่งการเกิด Jitter ถ้าไม่มากนักบางทีก็ไม่ถึงกับทำให้สัญญาณภาพหรือเสียงหายไปแต่จะทำให้ลดทอนคุณภาพของภาพและเสียงลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างตัว Jim เองเขาบอกว่าเขาจะเจอประจำว่าใช้สายสั้นๆระดับ 1 เมตรแล้วมีปัญหาเขาเลยเปลี่ยนเป็นสายยี่ห้อเดิมแบบเดิมแต่ยาวเป็นสองหรือสามเมตรปรากฏว่าปัญหาดังกล่าวหายไป ภาพและเสียงกลับมาเป็นปกติอย่างที่ควรจะเป็น
ทั้งหมดนี้ก็เป็นความเห็นของ Jim Peterson เจ้าของบริษัทผลิต Lumagen ที่เป็น Video Processor ชื่อดัง ก็ลองดูครับว่าถ้าเคยใช้สาย HDMI ที่สั้นๆแล้วมีปัญหาลองเปลี่ยนให้ยาวขึ้นเป็นสองเมตรดูซิว่าช่วยแก้ไขปัญหาได้ไหม อย่างผมก็เคยเจออยู่สองสามครั้งที่ใช้สายสั้นๆแล้วมีปัญหาภาพล้ม ภาพมีสัญญาณกวน หลังจากเปลี่ยนเส้นที่ยาวขึ้นแล้วมันwork แต่ว่าเส้นที่ผมเปลี่ยนไม่ได้เป็นยี่ห้อเดิมแบบเดิมเลยไม่สามารถสรุปได้แน่ๆว่ามันจริงดังที่เขาบอกไว้ไหม ยังไงก็ถือว่าอ่านไว้เป็นความรู้ครับเผื่ออเจอปัญหาจะได้มีวิธีในการแก้ไขปัญหาหลายๆแบบ ใครลองแล้วworkไม่workก็แชร์ประสบการณ์กันได้ครับ
พูดถึงเรื่องสาย HDMI ผมก็ได้รับสาย HDMI รองรับสัญญาณ 8K 48Gbpsของ AIM จากทางร้าน Deco2000 มาทดสอบ ที่ส่งมามีหลายความยาวตั้งแต่สิบสองเมตร จนถึง 2-3เมตร
โดยสายที่มีความยาวสองเมตรเป็นรุ่น FLV series ส่วนสายที่ยาวมากกว่าสามเมตรจะเป็นรุ่น LS3 Seriesซึ่งจะเป็นสายแบบ Activeมีช่องต่อpower supply จาก USB ที่หัว HDMI มาด้วยทั้งฝั่งที่เป็น Source Device และฝั่ง Display Equipment เพื่อเป็นการช่วยในการ Boost สัญญาณให้สามารถส่งสัญญาณได้ไกลมากขึ้น โดยเลือกจะใช้หรือไม่ใช้ power supply นี้ก็ได้เพราะบางทีสายไม่ได้ยาวมากและสัญญาณแรงพอก็ไม่จำเป็นต้องใช้
สาย HDMI นี้เป็นสายสัญชาติญี่ปุ่น ผลิตจากบริษัทAIM บริษัทที่สามารถผลิตสาย Optical เคเบิ้ล DisplayPort version 1.4 ที่นำส่งสัญญาณภาพวิดีโอมีความละเอียดสูงถึง 8K/30p 4:4:4 (32.4Gbps) และสายเลเซอร์เคเบิ้ล HDMI version 2.1 ที่นำส่งสัญญาณภาพวิดีโอความละเอียดสูงถึง 4K/60p 4:4:4 (48Gbps) ได้เป็นสำเร็จเป็นเจ้าแรกของโลก สาย HDMI ผ่านการรับรองจากสถาบัน ISF(Imaging Science Foundation) และเป็นสายที่ถูกนำไปใช้ในการทดสอบทีวีดังๆของญี่ปุ่นหลายยี่ห้อ
ผมได้ใช้เครื่องมือในการทดสอบประสิทธิภาพการส่งข้อมูลของสัญญาณส่วนย่อยต่างๆ(ยกเว้นไม่ได้วัดข้อมูล 48Gbpsเนื่องจากเครื่องมือที่ผมมีตอนนี้วัดได้สูงสุดที่18Gbps) โดยสำหรับข้อมูลในส่วนนี้ก็ผ่านสบาย ไม่มีปัญหาเรื่องความผิดปกติของสัญญาณแต่อย่างใด
เอาไปทดสอบเล่นเกมจากเครื่อง PS5 ที่เป็น HDMI 2.1 ก็เล่นได้ผ่านมีความเสถียร ภาพออกมาคม สดใส สวยงาม ลื่นไหลดีมาก
ก็ถ้าใครต้องการสาย HDMI ที่คุณภาพสูงมาตรฐานญี่ปุ่น ประสิทธิภาพดีมีความเสถียรต้องนี่เลยครับ AIM HDMI ใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่บริษัท Deco 2000 ได้เลยครับ
