Review

Search

IMAX Enhanced on Disney+ เรื่องนี้บอกอะไรเป็นนัยหรือเปล่า?

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.64 ที่ผ่านมา Disney+ ได้Streamingภาพยนตร์ในรูปแบบ IMAX EnhancedของMarvelออกมา 13เรื่อง ซึ่งเท่าที่ดูก็ไม่แปลกเท่าไหร่เพราะหนังในรูปแบบของIMAX Enhancedนั้นปล่อยออกมาน้อยมากและนานมาแล้วที่ไม่ได้มีหนังที่เป็นIMAX Enhancedออกมา แต่การStreamingครั้งนี้สื่ออะไรให้เรารู้บ้างมาดูกัน

ก่อนอื่นต้องอธิบายIMAX Enhancedก่อนว่ามันคืออะไร เผื่อใครยังไม่เคยได้ยิน หรือยังไม่รู้ที่มาที่ไป IMAX Enhancedเป็นโปรแกรมที่ร่วมมือกันระหว่างIMAX Corporation(NYSE: IMAX)และDTSเพื่อเสนออีกแนวทางหนึ่งของภาพและเสียงภายในบ้าน โดยจะมีทั้งผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมกับภาพยนตร์หรือสารคดีภาพระดับ 4K HDR ที่มีการre-masteredใหม่สำหรับโรงภาพยนตร์IMAX แล้วใช้เทคโนโลยีด้านเสียงของDTS เพื่อนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาสู่ในบ้านทั้งทางสื่อPhysical Media หรือสื่อStreaming ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์immersive ทั้งภาพและเสียงภายในบ้านได้ใกล้เคียงกับที่ผู้กำกับหนัง หรือคนทำหนังตั้งใจสร้างขึ้นมาได้มากขึ้น(filmmaker intended) ซึ่งถ้าใครอยากรู้เรื่อง IMAX Enhancedมากขึ้นสามารถเข้าไปอ่านได้บนWebsite https://moraekhometheater.com/home/archive/2018/imaxenhanced/ ที่ผมได้เคยเขียนอธิบายไว้อย่างละเอียดเมื่อสามสี่ปีที่แล้ว

ใครที่เคยเข้าไปดูภาพยนตร์ในโรงIMAXก็คงได้สัมผัสถึงจอภาพขนาดใหญ่ที่มีอัตราส่วนภาพ 1.9:1(บางโรงอาจจะใหญ่เป็นระดับ1.43:1) สูงกว่าจอwidescreenทั่วไปที่มีอัตราส่วนภาพประมาณ 2.4:1 โดยอัตราส่วนภาพที่สูงแบบIMAX นี้ก็ได้ใส่ลงในหนังแบบIMAX Enhanceด้วยเช่นกัน ทำให้ภาพที่ออกมาจากจอทีวีในบ้านหรือโปรเจคเตอร์ที่มีอัตราส่วนภาพของเครื่องส่วนมากเป็น1.78:1ได้ภาพเต็มจอ ไม่มีขอบสีดำด้านบนล่างของจอ สำหรับเรื่องของระบบเสียงภายในโรงภาพยนตร์IMAXนั้นเขาก็มีระบบของเขาเองซึ่งจะไม่เหมือนโรงภาพยนต์ทั่วๆไป อาจจมีจำนวนchannel 6-12channelsขึ้นอยู่กับขนาดของโรงภาพยนตร์ โดยchannelพื้นฐานก็จะเป็น front left, center,right,surround และSub-bass ตามปกติ แต่ในบางโรงภาพยนตร์ที่มีขนาดใหญ่ๆหรือมีจอสูงมากๆก็อาจจะมีchannelเพิ่มเข้ามาอีกเพื่อความต่อเนื่องของเสียงเช่น center channel ที่อยู่สูงขึ้นไปหรือเรียกว่าThe Voice Of Godอีกchannelหนึ่ง ที่ต้องมีก็เพราะเนื่องจากว่าจอมันสูงหลายสิบเมตร ความต่อเนื่องในแนวVertical จะไม่มีถ้าไม่มีcenter heighตรงนี้ อย่างฉากที่จรวดกำลังทะยานจากฐานขึ้นไปสู่ท้องฟ้า เสียงมันก็จะต้องออกจากด้านล่างของจอภาพแล้วค่อยๆไล่ขึ้นไปขอบจอภาพ

ระบบเสียงของIMAX Enhancedที่แนะนำให้ใช้ในบ้านทั่วไปมีอยู่สามแบบคือ 5.1.4 ซึ่งเป็นแบบเริ่มต้นมีการวางตำแหน่งลำโพงแนวระนาบอยู่5channels ลำโพงในแนวดิ่งหรือceiling channelsอีกสี่ตัว และใช้Subwoofer 1ตัว ส่วนถ้าใครต้องการให้เสียงเบสมีพลัง มีimpactมากขึ้นเขาก็แนะนำให้ใช้เป็นระบบ 5.2.4 ซึ่งการใช้subwoofer 2ตัวก็ทำให้การวางsubwooferสามารถวางแล้วลดความรุนแรงของroom modeภายในห้องได้ นอกจากนี้ถ้าใครต้องการเป็นระบบFull IMAX Experienceก็แนะนำให้ทำเป็น 7.2.4ไปเลย จะเป็นconfigurationสูงสุดของIMAX Enhancedที่รองรับได้ในตอนนี้ โดยลำโพงfront height speakerจะอยู่ที่ 30-55องศา ส่วนลำโพงrear height ก็จะอยู่ที่ 125-150องศาจากตำแหน่งนั่งฟัง ซึ่งถ้าจำได้มันก็คือค่าเดียวกับลำโพงเพดานของระบบdolby atmosนั่นเอง แบบนี้ก็แสดงว่าใครที่เคยติดตั้งลำโพงในระบบdolby atmosแบบ 7.2.4 ก็สามารถใช้ตำแหน่งลำโพงเดิมได้เลยถ้าต้องการเล่นระบบIMAX Enhanced

บางคนอาจจะคิดว่าIMAXใช้จำนวนลำโพงน้อยแบบนี้ การทำให้เกิดImmersive Soundจะทำได้ดีเหมือนระบบอื่นๆหรือไม่ อย่างSurroundเองก็มีไม่กี่ตัว แต่ใครที่เคยได้ชมในโรงภาพยนตร์IMAXจริงๆก็จะรับรู้ได้ว่าระบบเสียงให้ความเป็นImmersive Soundได้ดีมากทั้งๆที่มีจำนวนลำโพงไม่มาก อันนี้เป็นการออกแบบอย่างดีของIMAX ที่สามารถทำให้ลำโพงเกิดเสียงPhantom Imageวิ่งไปตามตำแหน่งต่างๆรอบๆห้องตามต้องการได้โดยใช้จำนวนลำโพงเท่าที่จำเป็น ไม่นานมานี้ผมได้อ่านบทความของWillfried Van Baelenเจ้าพ่อในเรื่อง3D Soundและผู้คิดค้นระบบเสียงAuro 3Dก็ได้พูดถึงเรื่องรูปแบบการจัดวางลำโพงของระบบเสียงImmersive AudioในนิตยสารWidescreen Review July/August2021ได้น่าสนใจทีเดียวโดยแกบอกว่า “การมีลำโพงจำนวนมากในระบบImmersive Soundไม่ได้หมายถึงเสียงจะเหมือนธรรมชาติมากขึ้น ในทางกลับกันการมีลำโพงจำนวนมากเกินไป มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดcomb filtering ส่งผลให้การจำลองเสียงจากต้นฉบับมีความด้อยลง ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุดในเรื่องคุณภาพของเสียง”

สำหรับหนังที่นำมาStreamingแบบIMAX Enhancedตอนนี้มีอยู่ 13เรื่อง เป็นหนังของจักรวาลMarvelทั้งหมด ได้แก่

ถ้าดูให้ดีจะเห็นได้ว่าจากทั้ง 13เรื่อง มีเพียง3เรื่องเท่านั้นที่ถ่ายด้วยกล้องIMAXทั้งเรื่องได้แก่ Avengers: Infinity War, Avengers: Endgame และShang-Chi and the Legend of the Ten Rings ส่วนเรื่องอื่นๆก็มีสลับไปมาระหว่างwidescreen กับ IMAX อย่างBlack Widowก็มีฉากที่เป็นIMAXประมาณ20นาทีกว่าๆ เรื่องอื่นๆก็มีประมาณ 15-20นาทีแล้วแต่เรื่อง

แน่นอนว่าหนังใหม่ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ที่ถ่ายด้วยอัตราส่วนIMAXทั้งเรื่อง เมื่อนำมาลงในDisney+ในรูปแบบ IMAX Enhancedภาพที่ออกมาก็จะเป็นสัดส่วนภาพเต็มๆแบบIMAXด้วย ไม่ได้เป็นการZoomภาพแล้วตัดด้านข้างออก แต่เป็นการนำเอาพื้นที่อีก 26% ที่ถูกตัดออกไปในการฉายด้วยสัดส่วนภาพแบบwidescreenกลับมา เพื่อให้รายละเอียดต่างๆครบถ้วนเหมือนกับได้ดูภาพจากโรงภาพยนตร์IMAX

โดยในหน้าจอของDisney+ จะขึ้นเลยว่าหนังเรื่องนี้มีระบบIMAX Enhanced และก็ยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าต้องการดูภาพในversionที่เป็นIMAX Enhanced หรือแบบ Widescreen

เสียดายว่า Disney+ Hotstar ที่ให้บริการในประเทศไทยยังไม่ได้ให้บริการในระบบIMAX Enhanced แต่มีข่าวว่าสามารถชมภาพยนตร์เรื่องShang-Chiในสัดส่วนภาพIMAXได้ในบางFormat เช่นจากการดูผ่านคอมพิวเตอร์ การแชร์จากมือถือไปยังจอภาพ หรือใครที่ใช้Apple TVก็สามารถดูได้จากภาพแบบ1080p SDR เช่นกัน

แบบนี้ต้องลองเลยครับ เข้าไปปรับความละเอียดภาพในApple TV ให้เป็น 1080p SDR และไปปิดในส่วน Match Dynamic Range/Frame Rate แล้วลองฉายภาพขึ้นโปรเจคเตอร์ดู

ได้แล้วครับ… ภาพออกมาแบบIMAXที่เป็นการนำเอาส่วนบนล่างที่ถูกตัดออกกลับมา เทียบกับภาพแบบWidescreenจะเห็นได้ว่าข้อมูลของภาพได้ถูกตัดออกไปเยอะเหมือนกัน (สีภาพต่างกันเนื่องจากภาพเป็นpicture modeต่างกันและยังไม่ได้calibrated)

ไปเปิดดูกับTV Sharpตัวเก่าของผมที่มีความละเอียดสูงสุดที่ 1080p ผ่านApple TV gen5 ภาพที่ออกมาก็เป็นสัดส่วนภาพIMAX รวมถึงลองไปเปิดดูในคอมพิวเตอร์PCที่เป็นจอภาพรายละเอียด4K ผ่านWeb browser ปรากฏว่าก็ได้ภาพIMAXเต็มจอคอม16:9ด้วยเช่นกัน

เป็นที่น่าเสียดายว่าตอนนี้Disney+ ยังไม่มีระบบเสียงเป็นแบบIMAX Enhancedเหมือนที่มีอยู่ในแผ่นBlu-ray โดยระบบเสียงที่มียังเป็นDolby Atmosอยู่ แต่เห็นว่าทางDisney+กำลังพัฒนาเพื่อเพิ่มระบบเสียงDTS IMAX Enhancedเข้าไปด้วยในอนาคต ซึ่งถ้าเพิ่มเข้าไปเมื่อไหร่น่าจะครบสูตรมากกว่านี้แน่นอน นอกจากนี้ทางDisney+ ก็กำลังเตรียมเพิ่มหนังที่เป็นIMAX Enhancedอีกหลายเรื่องเข้ามาเช่น

  • The Making of Happier than Ever: A Love Letter to Los Angeles about Billie Eilish’s recent Disney+ cinematic concert experience
  • Marvel Assembled: The Making of Shang-Chi and The Legend of The Ten Rings
  • Marvel Studios Legends: Hawkeye
  • Enchanted
  • Spin
  • Fancy Nancy, season three 
  • Feast (Short)
  • Frozen Fever (Short)
  • Get A Horse! (Short)
  • Enchanted
  • Jungle Cruise
  • All-New Short From The Simpsons
  • Paperman (Short)
  • Tangled Ever After (Short)
  • The Little Matchgirl (Short)
  • The Ballad Of Nessie (Short)
  • Tick Tock Tale (Short)
  • Ciao Alberto (Short)
  • Entrelazados
  • Home Sweet Home Alone
  • Olaf Presents
  • Under The Helmet: The Legacy of Boba Fett
  • Dopesick (S1, Premiere)

จากข้อมูลล่าสุดจะเห็นได้ว่าทางDisneyนั้นให้ความสำคัญกับStreamingมากกว่าPhysical Media อย่างเช่นหนังดังๆAvengers Infinity War/Endgameนั้น ในแผ่นBlu-ray ภาพที่ให้มาเป็นภาพแบบwidescreenธรรมดาเท่านั้น ไม่มีภาพแบบIMAXเหมือนในStreaming และก็ยังไม่มีข่าวว่าจะออกแผ่นที่เป็นVersion IMAXตามมาเมื่อไหร่ เพราะถ้าไม่มีการออกแผ่นตามมาแสดงว่าภาพยนตร์เรื่องนี้versionที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ที่แผ่นBlu-rayแต่ไปอยู่ที่Streaming ก็น่าน้อยใจสำหรับคอหนังที่ชอบสะสมแผ่น ลองคิดดูว่าต้องจ่ายเงินซื้อแผ่นเหล่านี้มาเก็บสะสมไว้ในราคาหลายพันบาท บางทีเป็นหมื่นบาท ทั้งกล่องเหล็ก กล่องที่มีของที่ระลึกจากหนัง ฯลฯ ซึ่งคนที่ยอมจ่ายเงินมากขนาดนี้คงต้องการแผ่นที่เป็นversionที่ดีที่สุดของหนังเก็บไว้ แต่ปรากฏว่าversionที่ดีที่สุดกลับไปอยู่บนstreamingที่มีค่าสมาชิกราคาไม่กี่ร้อยบาทต่อเดือน หรือว่านี่เป็นการพยายามบีบให้ตลาดแผ่นPhysical Mediaเหล่านี้เล็กลง(ทั้งที่ตอนนี้ก็เล็กมากอยู่แล้ว) และก็อาจจะเป็นการส่งสัญญาณว่าแผ่นBlu-rayกำลังจะหายไปจากตลาดเร็วขึ้น ยังไงคงต้องคอยดูกันต่อไปครับ

Facebook
Twitter
Email
ดาวน์โหลดบทความ IMAX Enhanced on Disney+ เรื่องนี้บอกอะไรเป็นนัยหรือเปล่า? (PDF)
Picture of ทพ. พงศ์ทิพจักร์ เชื้อเจ็ดองค์

ทพ. พงศ์ทิพจักร์ เชื้อเจ็ดองค์

หมอเอก หมอฟันผู้มีความหลงไหลชื่นชอบในเรื่องHometheater/Homecinema ด้วยความสนใจใคร่รู้ว่าเสียงและภาพในห้อง Hometheater จริง ๆ แล้วควรจะเป็นอย่างไร เลยลงทุนไปเรียนหลายสถาบันทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น THX, HAA, ISF, CEDIA, PVA, Meyer Sound Training, Smaart Training นอกจากนี้ก็เคยเข้าไปสัมผัสห้องสตูดิโอ และโรงภาพยนตร์ระดับมาตรฐานของโลกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น Stag theater, Kurasawa Dubbing Stage, Skywalker Sound Studio ของ Lucasfilm/ Pearson Theater,Bear’s Labของ Meyer Sound/ Dolby Cinema™ โดยความรู้และประสบการณ์ที่ได้มานั้นก็ได้นำมาเขียนเป็นบทความลงนิตยสาร และทำสื่อมัลติมีเดียออนไลน์เป็นเวลาหลายปี ตอนนี้ก็ได้นำบทความสื่อต่าง ๆ รวมถึงบทความใหม่ ๆ คลิปวิดีโอใหม่ ๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคตมารวบรวมกันไว้ที่ website นี้ เพื่อให้ใครที่สนใจในเรื่องของ Hometheater เอาไว้เสริมความรู้ และเผื่อสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ที่อาจจะพบเจอในการเล่นเครื่องเสียงของแต่ละท่านได้