ผมมักจะพูดว่าลำโพงCenterในระบบHome Theaterเป็นลำโพงที่สำคัญ และควรให้ความสนใจกับลำโพงตัวนี้ให้มาก เห็นหลายคนใช้ลำโพงหน้าซ้าย ลำโพงหน้าขวา อย่างใหญ่โต หรูหราราคาแพงสำหรับฟัง 2channel หรือใช้ลำโพงSurroundรุ่นTopตัวใหญ่หลายตัววางกันเป็นตับอยู่ด้านหลังและด้านบนเพดานในระบบimmersive sound 11.1.10เสียงเฟี้ยวฟ้าวรอบตัว แต่ลำโพงcenterในระบบกลับเป็นตัวเล็กกระจิริด แถมบางทีไปอยู่ในซอกหลืบของตู้ หรือถูกอุปกรณ์อย่างอื่นขวาง ถูกชั้นวางบังเกือบมิดอย่างน่าน้อยใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ลองมาดูกราฟนี้กันครับ
กราฟนี้เป็นกราฟที่ได้นำเอาภาพยนตร์ทั่วไป12เรื่อง มาวัดดูข้อมูลเฉลี่ยของsound contentในลำโพงแต่ละตัวของการmixระบบ 7.1 อันนี้ไม่ได้หมายถึงระดับความดังสูงสุดนะครับแต่จะดูจากพลังงานที่ใช้ในแต่ละchannel ตลอดกว่าสองชั่วโมงของหนังเรื่องนั้น จากกราฟจะเห็นได้ว่า โดยเฉลี่ยลำโพงCenterมีพลังงาน มีLevel และใช้Powerมากกว่าลำโพงหน้าซ้ายและขวาอยู่ 3dB ซึ่งดูจากค่า 3dB ก็ดูไม่มากเท่าไรเหมือนกับเราหมุนปุ่มVolumeของเสียงไป 3dB แต่ความจริงแล้วการที่จะทำให้พลังงานเสียงเพิ่มขึ้น 3dB ต้องใช้พลังงานของPower Amplifierขึ้นไปสองเท่าถึงจะเพิ่มความดังขึ้น 3dB ส่วนลำโพงSurround ซ้ายและขวาก็จะลดลงไปจากลำโพงCenter 6dB ก็คือใช้กำลังของPowerลดลงไปจากลำโพงCenterหนึ่งในสี่ และลำโพงSurround Back ซ้ายและขวาก็เช่นกันลดลงไปอีก 12dBเทียบกับลำโพงcenter ซึ่งถ้าเพิ่มลำโพงเพดานเข้าไปก็คงจะลดลงไปกว่านี้อีก ดังนั้นอาจจะพูดได้ว่า”Main Channel”ที่เรามักจะเรียกว่าเป็นลำโพงหน้าซ้ายและหน้าขวา ก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียวเพราะลำโพงที่สำคัญจริงๆ เป็นMainจริงๆสำหรับระบบhome theaterก็คือลำโพงCenterนั่นเอง ลำโพงอื่นๆก็จะเป็นลำโพงเสริมให้เกิดความสนุกสนาน ตื่นเต้น สมจริงกับเนื้อเรื่องในภาพยนตร์แต่ความสำคัญนั้นก็ไม่เท่ากับลำโพงCenterที่มีเสียงพูดออกมา มีเสียงActionต่างๆออกมา เนื้อหาเรื่องราวของเรื่องเกิดจากลำโพงแชลแนลนี้ ดังนั้นก่อนที่จะไปทำส่วนลำโพงอื่นให้ดีสิ่งแรกที่ควรทำและให้ความสำคัญในการSetupระบบHome theaterก็คือ ทำให้ลำโพงCenter มีเสียงที่ออกมาถูกต้องสมบูรณ์ก่อนครับ ( Credit Anthony Grimani Top CEDIA Instructor)