ในปัจจุบันสายHDMI มีความสำคัญมากขึ้นกับระบบภาพและเสียงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในระบบของHome Theater เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นการส่งผ่านระบบเสียงแบบImmersive Soundทั้ง Dolby Atmos, dts-X, Auro 3D หรือระบบภาพแบบ Full HD, UHD, 4K HDR จนถึงระบบภาพใหม่ว่าสุดที่มีความละเอียดถึง 8K ก็ล้วนแต่ต้องใช้สายHDMIทั้งสิ้น เมื่อพูดถึงสายHDMIถ้าใครอยู่ในวงการHome Theaterมานานคงรู้จักสาย HDMIยี่ห้อWireWorldเป็นอย่างดีเนื่องจากเป็นบริษัทที่ชำนาญระดับโลกในเรื่องของการทำสายเชื่อมต่อประเภทต่างๆ รวมจนถึงสายHDMI และล่าสุดทางบริษัทWireWorldก็ได้เปิดตัวสายHDMI รุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อ SphereTM HDMI Cable สายรุ่นใหม่นี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้างมาติดตามอ่านกันครับ
สายรุ่นใหม่นี้เป็นสายHDMI2.0ใช้โลหะทองแดงเป็นตัวนำ สามารถส่งข้อมูลBandwidthขนาด 18Gbpsได้ ที่ต้องใช้Bandwidthกว้างมากขึ้นก็เนื่องจากว่าข้อมูลภาพในปัจจุบันแบบ4K HDRจะมีDynamic Rangeที่กว้างขึ้น จำนวนสีที่แสดง การไล่สีต่างๆก็มากขึ้น รายละเอียดของภาพก็สูงมากขึ้นจึงจำเป็นต้องมีการส่งข้อมูลที่ใหญ่มากกว่าเดิม เมื่อต้องการส่งข้อมูลมากขึ้นBandwidthก็จึงต้องสูงขึ้นตาม การออกแบบสายเส้นนี้ใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า HD-Bridge™ Active Technology โดยมีการใช้chipsetในระดับstate-of -the-art ความเร็วถึง 50Gbps ที่สามารถปรับให้เข้ากับระบบแต่ละแบบได้จึงมีBandwidthสูงถึง 18Gbps ทำให้เพิ่มcontrastและสีสันให้มีความถูกต้องเที่ยงตรงมากขึ้น ข้อต่อใช้ขั้วที่ทำจากgold-plated 24K เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเชื่อมต่อและความคงทนของขั้วต่างๆ การออกแบบการเรียงตัวของสายภายในใช้การออกแบบชื่อว่าUni-PathTH และ Symmetricon® ที่มีการเรียงตัวของเส้นสายภายในเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ร่วมกับการใช้ฉนวนพิเศษแบบ100ohms Composilex®2 ทำให้ลดการสูญเสียของสัญญาณ ลดnoise แต่เพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูลให้มีความเร็วและความเสถียรสูงสุด ส่วนตัวนำสัญญาณที่ใช้ในสายจะใช้ตัวนำทองแดงแบบOxygen-Free Copper(OFC®)เพื่อส่งข้อมูลภาพCrystal Clearทั้งรายละเอียดและสีสัน โดยสายHDMIรุ่นนี้จากSpecของบริษัทนั้นแจ้งว่าสามารถส่งผ่านข้อมูลภาพที่รายละเอียด 4K/60fps แบบHDR การเข้ารหัสสี 4:4:4 ในสายที่มีความยาวมากกว่า 30ฟุต/9เมตรถึง100ฟุต/30เมตรได้ โดยในสายที่ยาวมากก็จะมีหัวUSBเพิ่มขึ้นมาอีกเพื่อต่อเข้าช่องต่อUSBของทีวีหรือโปรเจคเตอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งสัญญาณไฟฟ้าในความยาวสายที่มากๆจะได้ไม่มีการตกหล่นของข้อมูล นอกจากนี้สายก็ยังสามารถรองรับการเข้ารหัสแบบ HDCP 2.2เนื่องจากว่าในปัจจุบันภาพแบบ 4Kที่ส่งมาจาก UHD Blu-ray, Netflix, Amazon Prime Video, Hulu รวมถึงcontentใหม่ๆล้วนใช้รหัสการป้องกันแบบ 2.2กันหมดแล้ว ดังนั้นอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบก็ต้องรองรับการส่งข้อมูลการเข้ารหัสHDCP2.2 ไม่ใช่รองรับแค่HDCP1.4แบบเดิมเท่านั้น
มาถึงการทดสอบสายWireWorld Sphere™ HDMI Cableจริงๆกัน โดยสายที่ผมได้รับมาเป็นสายHDMI-HDMI High Speed with Ethernet ความยาว 50ฟุต/15เมตร ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าสายHDMIที่มีความยาวมากในปัจจุบัน ส่วนมากจะเป็นการนำสัญญาณแบบFiber opticเนื่องจากให้Bandwidthที่สูง มีการสูญเสียของสัญญาณต่ำโดยเฉพาะในการส่งข้อมูลระยะไกลๆเนื่องจากเป็นการส่งข้อมูลโดยใช้แสงแทนใช้ไฟฟ้า แต่ปัญหาของการใช้สายfiber opticก็มีบ้างอย่างเช่น ต้องมีการแปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นสัญญาณแสงก่อนส่งผ่านสายfiber opticแล้วแปลงกลับมาเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าเพื่อส่งไปยังเครื่องปลายทางอีกทีซึ่งอุปกรณ์แปลงสัญญาณก็ต้องมีคุณภาพถึงจะมีการแปลงสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกอย่างหนึ่งก็คือใยแก้วนำแสข้างในแตกหักง่ายกว่าสายแบบโลหะทองแดงยิ่งถ้าเดินสายเข้าไปในช่อง หลืบแคบๆแล้วดึงสายแรงๆ หรือมีการขดเป็นเกลียวอยู่ภายในฝ้า ภายในฝาผนัง นานวันเข้าสายอาจจะเปราะและแตกได้ทำให้การส่งข้อมูลเกิดปัญหาขึ้น แต่ปัญหาเหล่านี้กลับไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ผู้ใช้หลายท่านชอบการส่งสัญญาณแบบสายทองแดงมากกว่าสายfiber optic ซึ่งปัญหานี้ได้แก่ไม่ชอบบุคลิกของภาพ ของเสียงที่ผ่านการส่งข้อมูลแบบopticalเมื่อเทียบกับการส่งโดยใช้สายทองแดง ลองเปรียบเทียบง่ายๆเช่นลองฟังเสียงที่มีการส่งผ่านสัญญาณเสียงดิจิตอลแบบopticalกับcoaxial หลายคนฟังแล้วก็จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเลยว่าเสียงที่มาจากสายoptic fiberจะให้เนื้อเสียงที่แห้งบาง ไม่ได้น้ำหนักเสียงเท่ากับเสียงที่มาจากสายทองแดงแบบcoaxial จึงทำให้นักเล่นหลายท่านหลีกเลี่ยงที่จะใช้สายfiber opticไปเลย หรือยกตัวอย่างง่ายๆสายHDMIที่มีความยาวไม่มากนักเช่นสองถึงสามเมตรคนส่วนมากก็ยังจะนิยมใช้สายทองแดงมากกว่าที่จะเป็นสายfiber optic แต่สายทองแดงก็มีปัญหาอย่างที่บอกอีกว่าส่งสัญญาณแบบยาวๆไม่ได้ นอกจากจะใช้วิธีการที่เรียกว่าBoostersเพื่อใช้พลังงานไฟฟ้าขยายสัญญาณ แต่วิธีการนี้ก็ต้องระวังในการขยายสัญญาณด้วยว่ามันก็จะขยายสัญญาณที่ผิดปกติขึ้นด้วยดังนั้นจึงต้องมีการออกแบบสายให้ดี เช่นเดียวกับสายWireWorld Sphere เส้นนี้ที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากช่องต่อUSBเพื่อเพิ่มความแรงสัญญาณไม่ให้ข้อมูลมีการlossไปจากสายทองแดง
สิ่งแรกที่ผมทำหลังจากได้รับสายมาก็คือนำสายมาเข้าเครื่องทดสอบ CYP XA-3Pที่ใช้อยู่ จากการตรวจสอบก็พบว่าสายWireWorld Sphereผ่านทุกspecที่ตรวจสอบได้แก่ +5V, Hotplug, DDC Bus, CED และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบว่าสายสามารถส่งข้อมูลbandwidthที่ 18Gbpsหรือไม่ ซึ่งสายHDMIเส้นนี้ก็ผ่านอย่างไม่มีปัญหาอะไรแต่มีข้อแม้ว่าตอนตรวจสอบนั้นต้องต่อไฟเข้าไปยังหัวUSBของสายด้วย ซึ่งผมก็ลองไม่ต่อสายUSBออกก็ปรากฏว่าค่าที่ทดสอบพื้นฐาน+5V, Hotplug, DDC Bus, CEDนั้นผ่านหมด แต่Bandwidthที่ 18Gbpsนั้น Fail ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งถ้าใครใช้สายตัวนี้ก็ต้องต่อช่องUSBจากทีวี โปรเจคเตอร์ หรือจากเครื่องAVRด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นสายจะไม่สามารถส่งข้อมูลที่Bandwidth 18Gbpsได้
เมื่อลองนำสายมาใช้งานจริงๆโดยต่อจากเครื่องเล่นหลายSource พบว่าเมื่อดูภาพรู้สึกได้เลยว่าภาพมีความสว่างมากขึ้น ในส่วนมืดของภาพก็มีความดำเพิ่มมากขึ้น เรียกง่ายๆว่าสายเส้นนี้ให้contrastของภาพเพิ่มมากขึ้นอย่างที่คำแนะนำของสายเขาบอกไว้จริงๆ ส่วนสีของภาพนั้นก็ให้สีสันที่มีความเที่ยงตรง ให้ความแน่นของเนื้อสีเต็มๆ โดยที่ไม่พบความเพี้ยนของสีภาพแต่ประการใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องสัญญาณรบกวน และnoiseของภาพที่มักจะเกิดขึ้นถ้าเป็นสายHDMIที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการBoostersสัญญาณหรือบางท่านเรียกว่าเป็นActive Signal Booster ซึ่งในสายเส้นนี้ก็ไม่พบว่ามีสัญญาณกวนหรือnoiseของภาพเพิ่มขึ้นแต่อย่างไร สรุปแล้วสายHDMI WireWorld Sphere™เส้นนี้เป็นสายตัวนำOxygen Free-Copperที่สามารถส่งผ่านข้อมูลBandwidthระดับ 18Gbps ที่มีความยาวของสายมากๆได้ โดยยังคงคุณลักษณะของสายทองแดงได้ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น ทำให้contrast และสีของภาพดีขึ้น โดยไม่มีการตกหล่นของสัญญาณ และnoiseของสัญญาณเพิ่มขึ้นแต่อย่างไร ถ้าใครยังคงชื่นชอบการส่งสัญญาณภาพหรือเสียงผ่านทางตัวนำทองแดงขอแนะนำเลยครับสำหรับสาย Sphere™ HDMI® Cableเส้นนี้